ดูบทความ
ดูบทความเล่นโยคะทุกวัน แต่ทำไมฉันยังปวดคอ บ่าได้อีก ดูจากสะบักขวาสิ
เล่นโยคะทุกวัน แต่ทำไมฉันยังปวดคอ บ่าได้อีก ดูจากสะบักขวาสิ
เล่นโยคะทุกวัน แต่ทำไมฉันยังปวดคอ บ่าได้อีก
ดูจากสะบักขวาสิ
มีเคสที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆได้ศึกษากันต่อเนื่องเลยครับ สำหรับเคสนี้มาด้วยอาการปวดตึงคอ บ่า และสะบักขวา โดยอาการปวดจะเป็นๆหายๆเหมือนคนเป็นโรค office syndrome ทั่วไป ไม่ถึงขั้นปวดร้าวขึ้นหัว หรือปวดจนทรมานอะไรแบบนั้น นอกจากนี้ก็ยังมีอาการตึงหลังล่างหน่อยๆด้วย
อาการปวดที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับคนไข้รายนี้มากนัก คนไข้ยังคงทำงานได้ นอนหลับได้ กินได้ดี ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ แต่ แต่อาการนี้มันสร้างความสงสัยและความรำคาญใจให้คนไข้มากกว่า เพราะว่าคนไข้รายนี้เล่นโยคะทุกวัน แถมเล่นได้ดีมากๆซะด้วย
แล้วมันน่าแปลกใจที่ว่า "ทำไมฉันเล่นโยคะทุกวัน ยืดเหยียดกล้ามเนื้ออยู่บ่อยๆ ยืนจนตัวอ่อนสุดๆแล้ว แต่ทำไมฉันยังปวดกล้ามเนื้อได้อยู่อีกละ" เรื่องนี้เรามาหาคำตอบในร่างกายคนไข้รายนี้กันครับ
เหมือนกับคนไข้หลายๆคนที่มาคลินิกผม คือ พอมาถึงป๊าบก็จับถอดเสื้อออกเพื่อดูแนวกระดูกสันหลัง และโครงสร้างกระดูกกล้ามเนื้อทั้งซีกซ้ายและขวาว่า มันสมดุลกันมั้ย จากนั้นก็ใช้ปากกาขีดๆเขียนๆลากเส้นไปบนหลังคนไข้เพื่อให้เห็นความผิดปกติได้อย่างชัดๆ พอลากเสร็จป๊าบบบบ ถึงได้รู้สาเหตุว่าทำไมถึงปวดคอ บ่า สะบักขวาเรื้อรัง
มันเกิดจากบุคลิกคนไข้เองนั่นแหละครับ โดยคนไข้มีภาวะไหล่ห่อข้างขวา คอยื่นไปด้านหน้าตลอดเวลา และยืนทิ้งนํ้าตัวไปด้านหน้าตลอดนั่นเอง
ซึ่งการที่ไหล่ขวาห่อไปด้านหน้าตลอด มันทำให้กล้ามเนื้อบ่าขวา และสะบักหลังถูกยืดอยู่ตลอดเวลา แล้วการที่กล้ามเนื้อถูกยืดอยู่ตลอดเนี่ยแหละ มันก็ทำให้กล้ามเนื้อตึงได้เหมือนกันนะ (ถูกยืดมากจนตึงค้าง) พอกล้ามเนื้อตึงมากๆเข้าเส้นใยกล้ามเนื้อภายในก็หดรั้งตึงจนเป็นก้อนนูนขึ้นมาที่เรียกว่า ก้อน trigger point ที่สร้างอาการปวดกล้ามเนื้อให้เราได้อยู่เนืองๆนั่นเอง
แล้วเจ้าก้อน trigger point เหล่านี้ สำหรับคนที่กล้ามเนื้อยืดหยุ่นดีมากๆอยู่แล้ว การยืดกล้ามเนื้อไม่ได้ช่วยให้ก้อน trigger point คลายตัวลงได้นะ เราต้องใช้การกด การนวดไปที่ก้อนเหล่านี้โดยตรง หรือใช้การออกกำลังกายแบบมีแรงต้านก็จะช่วยคลายความตึงลงได้เช่นกัน
นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมเราเล่นโยคะ หรือเน้นยืดกล้ามเนื้ออย่างเดียวอาการปวดตึงกล้ามเนื้อถึงไม่หายขาดไปได้ซะที นานวันเข้าเราก็จะสังเกตุได้ว่า เราสามารถยืดกล้ามเนื้อได้เยอะขึ้น ตัวอ่อนมากขึ้น แต่ยิ่งยืดมากเท่าไหร่อาการปวดกลับไม่ได้ลดลงเลย มิหนำซํ้ายิ่งยืดมากเรากลับยิ่งรู้สึกปวดมากกว่าเดิมด้วยซํ้า ถ้าเพื่อนๆมีอาการคล้ายๆกันแบบนี้อยู่ละก็ แนะนำว่าให้ออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน โดยเน้นออกมัดที่เราปวดเป็นประจำจะช่วยให้หายปวดได้ชะงักเลยละครับ
ส่วนอาการปวดตึงหลังล่างก็มาจากท่ายืนที่ชอบยืนเอนตัวไปด้านหน้าตลอดเวลา (ดูจากรูปถ่ายด้านข้าง) พอตัวเอนไปด้านหน้ามากๆเข้า ตัวเราจะเสียสมดุลแล้วเสี่ยงล้มไปด้านหน้าได้ ร่างกายก็จะปรับตัวโดยการแอ่นหลังล่างร่วมด้วย แล้วการที่หลังแอ่นเนี่ยแหละ มันทำให้กล้ามเนื้อหลังล่างต้องออกแรงเกร็งตัวอยู่ตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย ซึ่งการที่กล้ามเนื้อเกร็งอยู่ตลอดมันทำให้กล้ามเนื้อล้า และเกิดอาการปวดได้นั่นเองครับ
18 กุมภาพันธ์ 2564
ผู้ชม 6873 ครั้ง
แสดงความคิดเห็น