ดูบทความ
ดูบทความเรื่องเล่าจากคนไข้ ตอนที่ 1
เรื่องเล่าจากคนไข้ ตอนที่ 1
สวัสดีครับ วันนี้มีเรื่องราวสุขภาพจะมาแชร์ให้ฟังผ่านมุมมองของผมกัน
ในช่วงที่ผมเปิดคลินิกกายภาพอย่างเป็นทางการจนถึงวันนี้ก็ร่วมๆ 7 เดือนเห็นจะได้ ได้พบเจอคนไข้มากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ผมอยู่บ่อยครั้งก็คือ เรื่องอายุคนไข้ครับ คือ ผมโดนคนไข้หลอกอายุบ่อยมากกกกกกกกกกกก หลอกอายุในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเค้าแกล้งบอกอายุหรือกรอกอายุในใบประวัติผู้ป่วยผิดนะ แต่หมายถึงหน้าตาคนไข้ไม่ได้สัมพันธิ์กับอายุที่เป็นอยู่เลยน่ะครับ พอคนไข้เดินเข้ามา ผมเห็นใบหน้าปุ๊บก็จะเดาอายุคนไข้คร่าวๆไว้ก่อนว่าน่าจะอายุประมาณนี้ๆๆนะ (ที่เดาอายุก่อนก็เพื่อระหว่างที่คนไข้กรอกประวัติผมจะได้ซักถามอาการของโรคว่าปวดตรงไหน ปวดได้ยังไง เป็นมายังไงถึงปวดขนาดนี้ เพราะช่วงอายุมันสัมพันธิ์กับโรคครับ)
ยกตัวอย่างเช่น มีคนไข้คนหนึ่งมาด้วยอาการปวดเข่า พับเข่าไม่ได้ พอเห็นใบหน้าแล้วก็คิดว่าคนนี้อายุน่าจะ 30 ต้นๆแน่ๆเลย อายุแค่นี้คงเป็นแค่กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นอักเสบอะไรทำนองนี้ แต่พอจับตรวจข้อเข่า คนไข้งอเข่าได้ไม่สุดแม้ผมจะช่วยออกแรงดันเข่าให้ มันจะรู้สึกแข็งๆตึงๆที่ข้อเข่า พอจับเขย่าตรงลูกสะบ้าก็รู้สึกได้ว่ามันมีกระดูกงอกใต้ลูกสะบ้าด้วย เข่าเริ่มโก่งนิดๆ ใต้ข้อพับเข่าก็บวมหน่อยๆ ตรวจมาถึงตรงนี้ผมชักจะเริ่มเอะใจแล้ว อาการมันเหมือนโรคข้อเข่าเสื่อมเลยนี่หว่า แต่อายุแค่ 30 มันจะเสื่อมได้ไวขนาดนี้เลยหรอ? คิดได้ดังนั้น ก็ไปหยิบประวัติมาดูซะหน่อย พอผมเห็นเลขอายุเท่านั้นผมนี่ตะลึงเลย คือ คนไข้คนนี้อายุ 50 กว่าแล้วจ้าาาาาา ผมนี่ยืนหันหน้าสลับไปมาระหว่างใบหน้าคนไข้กับใบประวัติ หันควับไปๆมาๆอยู่อย่างนั้น จนคนไข้ถามมาว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่าคะ? ผมเลยต้องขอถามอายุคนไข้ตรงๆว่าอายุเท่าไหร่แล้วครับ? (เผื่อคนไข้ตาลายเขียนช่วงอายุผิดอะไรงี้) คนไข้ก็บอกว่า 50 กว่าค่ะ ตามที่กรอกในใบประวัติเลยค่าาาา ผมนี่ถึงกับร้องว้าวเลย หน้าดูเด็กมากจริงๆ ผมเลยบอกคนไข้ไปแบบนี้ คนไข้ก็ขำอย่างอารมณ์ดี แล้วผมเองก็อดไม่ได้ที่จะถามว่าทำไมหน้าตาดูเด็กจังครับ ดูเด็กกว่าอายุจริงตั้ง 20 ปีแน่ะ
นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ผมเจอมา แล้วถ้าเจอคนไข้ที่หน้าดูเด็กกว่าอายุจริงมากๆแบบนี้ ผมก็จะขอถามประวัติเรื่องการกินการอยู่การนอนเพิ่มเติม เพื่อเก็บข้อมูลเอาไว้เป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆต่อไป เค้าจะได้มีกำลังใจในการดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งเคล็ดลับของความอ่อนเยาว์ที่ผมได้ถามคนไข้มา จะมีหลายอย่างๆที่เค้าทำเหมือนกัน ดังนี้ครับ
1) เข้านอนไว และตื่นเช้าตรู่ (ส่วนใหญ่จะบอกว่านอนประมาณ 3 ทุ่ม)
2) ทำกับข้าวทานเอง
3) ไม่ทานนํ้าตาล ของหวาน หรือขนมเลย (บางคนก็ทานแต่นานๆครั้ง)
4) ทานผักทุกมื้ออาหาร ทานผลไม้ทุกวัน (คนไข้ที่ผมยกตัวอย่างไป เค้าทานผักทุกมื้ออาหารเลยครับ)
5) ไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น หมู วัว แพะ จะทานปลามากเป็นพิเศษ (อย่างคนไข้ที่ผมยกตัวอย่างไป สำหรับเนื้อสัตว์เค้าทานแค่ปลาเท่านั้น)
6) ทานของทอด ปิ้ง ย่างน้อยมาก จะปรุงอาหารด้วยการนึ่ง อบ ต้มเสียเป็นส่วนใหญ่
7) ดื่มนํ้าเปล่าเยอะมากๆ เฉลี่ยประมาณ 2 ลิตร แต่จะเป็นลักษณะการจิบนํ้าตลอดทั้งวัน ไม่ได้ดื่มแบบยัดเข้าไปทีเดียว
8) ชอบออกกำลังกายตอนเข้า เช่น ปั่นจักรยาน, วิ่ง 3-5 กิโลเมตร บางคนก็จะชอบเล่นยกเวท บางคนก็จะเต้นแอโรบิก แต่เท่าที่ผมถามเรื่องการออกกำลังกายอย่างละเอียด คนไข้ส่วนใหญ่จะออกกำลังกายแบบหลากหลายประเภทนะครับ ไม่ได้ออกแค่อย่างเดียว
9) หัวเราะง่าย ยิ้มง่าย ดูมีความสุขอยู่ตลอดเวลา (หัวข้อนี้สำคัญมากๆครับ)
พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อนๆบางคนอาจจะถอดใจไปซะก่อนว่าฉันคงทำไม่ได้แน่ๆ ใจเย็นๆนะครับ ผมอยากจะบอกว่า คนไข้ทุกคนที่ผมถามเค้าไม่ได้ทำได้ครบทั้ง 9 ข้อที่ผมบอกมาหรอกนะครับ บางคนก็ทำได้ 5 ข้อบ้าง บางคนก็7 ข้อบ้าง ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ล่ะคนด้วยครับผม แต่ที่แน่ๆที่ทุกคนทำเหมือนกันหมดเลยก็คือ การออกกำลังกายครับ ฉะนั้น ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงแล้วไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนล่ะก็ ให้เริ่มจากการออกกำลังกายวันล่ะ 40 นาทีอย่างสมํ่าเสมอล่ะกันนะครับ
ปล. สิ่งที่ยากที่สุดในการที่จะทำให้ตัวเองแลมีสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องของเงิน หรือไม่มีเวลาหรอกนะครับ แต่เป็นความเคยชินกับรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบเดิมๆครับผม คนไข้ที่ผมรักษาแล้วหายไว โดยส่วนมากเค้ามีวินัยในการกิน การนอน และการออกกำลังกายตามที่ผมบอกได้ค่อนข้างเป๊ะมากๆ เช่น จากเดิมนอนตื่นสาย ก็ให้ตื่นเช้าขึ้นเพื่อแบ่งเวลามาออกกำลังกายตามที่ผมบอกประมาณ 20 นาที ก่อนออกไปทำงาน เพียงเท่านี้เค้าก็มีเวลาเพิ่มขึ้นในแต่ล่ะวันแล้วครับผม สุขภาพดีสร้างได้ด้วยวินัยของเราเองนะครับ ^^
03 ธันวาคม 2561
ผู้ชม 3183 ครั้ง
แสดงความคิดเห็น