shopup.com

สถิติผู้เข้าชมเว็บ

12167470

ดูบทความรวมสาระพัด โรคเกี่ยวกับปวดหลังทั้งหมด พร้อมวิธีสังเกตุอาการ

รวมสาระพัด โรคเกี่ยวกับปวดหลังทั้งหมด พร้อมวิธีสังเกตุอาการ

หมวดหมู่: หลัง ลำตัว


เมื่อเราปวดหลัง คนทั่วไปมักนึกถึงโรคที่เกี่ยวกับหลังอยู่ 2 โรคด้วยกัน คือ หมอนรองกระดูกทับเส้นกับกล้ามเนื้อหลังอักเสบ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลังมีมากกว่านั้น...เยอะมากกกกกกกก กอไก่ร้อยตัวเลยทีเดียว ถ้าให้อธิบายทั้งหมดมันดูเป็นวิชาการจนเกินไป เดี๋ยวเพื่อนๆจะหลับกันซะก่อน ฉะนั้น ผมจึงยกตัวอย่างเพียง 7 โรคที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลัง ที่พบได้บ่อยพบได้มากและมีให้เห็นกันแทบทุกวันในโรงพยาบาล แต่คนทั่วไปมักไม่ค่อยรู้มาฝากกัน โดยเริ่มจากโรคที่เรารู้จักกันดี คือ...


1) โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (herniated disc pulposus : HNP)


ผมจะอธิบายแบบสรุปเลยนะครับ โรคนี้เกิดจากเจลในหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นออกมาไปกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง (spinal cord) หรือรากประสาท (spinal nerve root) ทำให้เกิดอาการปวดหลัง ซึ่งพบได้บ่อยมาก ทีนี้ผมจะแนะวิธีการสังเกตุอาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทกัน 

 

ภาพแสดงหมอนรองกระดูกปลิ้นออกมาทับเส้นประสาท


อาการ ของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท


- ปวดหลังรุนแรง ปวดมากจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ (ในกรณีที่ทับโดนเส้นประสาทไขสันหลัง)

- ปวดเมื่อไอ จาม เบ่งถ่ายขณะเข้าห้องนํ้า (อันนี้คือหัวใจสำคัญของโรคนี้เลยครับ)

- ไม่สามารถแอ่นหลังได้ ต้องก้มหลังตลอดเวลา ถ้าแอ่นหลังจะปวดมากขึ้น

- ขาชา

- ปวดหลังร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างเลย

- บางรายไม่มีอาการปวดหลังเลย แต่จะรู้สึกขาชาอย่างเดียว พอเบ่งถ่ายก็รู้สึกขาชามากขึ้น

- บางรายก็ไม่มีอาการชาขา หรือปวดหลังเลย แต่จะปวดขาอย่างเดียว จะบีบจะนวดขายังไงก็ไม่รู้สึกดีขึ้น รู้สึกปวดขาแบบหน่วงๆ เหมือนขาหนักๆครับ

- หากเป็นมานานขาจะอ่อนแรง ล้มพับง่าย ยืนไม่มั่นคง

- กล้ามเนื้อขาฝ่อลีบ ของมัดที่เส้นประสาทถูกกดทับ

- ในกรณีที่ถูกทับมากๆ แค่พูด ผู้ป่วยก็รู้สึกปวดหลังจนนํ้าตาไหลแล้ว

- ปวดมากเมื่อกดลงไปที่กระดูกสันหลังตรงๆ

รายละเอียดของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทฉับบเต็ม (หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท โรคยอดฮิตที่ใครๆก็รู้จัก)

คลิป VDO (9 วิธีลดปวดหลังด้วยตนเอง จากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้น)


2) โรคกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน (acute lower back pain)


โรคนี้แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังเลยครับ เกิดจากตัวกล้ามเนื้อหลังของเราล้วนๆ แล้วที่น่าสนใจคือ โรคนี้จะมีอาการคล้ายกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมาก เพียงแต่ไม่มีอาการชาเท่านั้น ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อหลังของเราถูกใช้งานมากเกินไป จากการก้มๆเงยๆ การยกของหนัก อุบัติเหตุโดนกระแทบที่หลังโดยตรง การเล่นกีฬาอย่างหนัก จนทำให้กล้ามเนื้อหลังอักเสบอักเสบเฉียบพลันทันที

 

ภาพแสดงโครงสร้างของกล้ามเนื้อหลังส่วนนอก


อาการ ของโรคกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน 


- ปวดตึงหลัง

- รู้สึกปวดหลังแบบกว้างๆ ระบุตำแหน่งชัดเจนไม่ได้ (นี่คือจุดที่แตกต่างระหว่างเป็นที่กล้ามเนื้อกับกระดูกสันหลัง ถ้าเป็นที่กระดูกสันหลังจะระบุตำแหนงที่ปวดได้ค่อนข้างชัด แต่ถ้าเป็นที่กล้ามเนื้อจะรู้สึกปวดกว้างๆ บอกตำแหน่งชัดเจนไม่ได้)

- ผู้ป่วยจะเดินหลังเกร็ง และแอ่นหลังตลอดเวลา

- กล้ามเนื้อหลังหดเกร็งเป็นลำชัดเจน

- จะก้มหรือแอ่นหลังก็ทำไม่ได้ เพราะปวดตึงหลังไปหมด

- บางรายอาจจะปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือสองข้าง (อาการนี้จะสร้างความสับสนว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น)

- กำลังกล้ามเนื้อขายังคงเป็นปกติ

 

3) โรคกระดูกสันหลังเสื่อม (spondylosis)


รู้หรือเปล่าว่า โดยปกติแล้วโรคกระดูกสันหลังเสื่อมในระยะแรกจะไม่มีอาการปวดใดๆเลยนะ ผู้ป่วยจะมามีอาการปวดหลังก็ต่อเมื่อข้อต่อ facet joint ที่ทำหน้าที่เชื่อมกระดูกสันหลังชิ้นบนกับชิ้นล่างไว้ด้วยหัน เกิดเสื่อมลงมากจนทรุดตัวแล้วนั่นแหละครับ ถึงจะเริ่มมีอาการปวดหลัง นอกจากนี้ ยังเกิดจากกระดูกงอก (หรือเรียกว่าหินปูนก็ได้) ที่เกิดจากการซ่อมแซมกระดูกสันหลังที่เสื่อมลง เกิดงอกมากเกินไปจนไปกดทับรากประสาทสันหลังเข้า ทำให้มีอาการขาชาได้ไม่ต่างจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเลยทีเดียว

 

ภาพแสดงตำแหน่งการเสื่อมของข้อต่อ facet joint 


อาการ ของโรคกระดูกสันหลังเสื่อม


- ในระยะแรกไม่มีอาการปวดใดๆเลยครับ แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ไปตรวจ X-ray อาจพบว่ากระดูกสันหลังอยู่ชิดกันมากขึ้น

- มีอาการปวดหลังแบบขัดๆภายในข้อ สามารถระบุตำแหน่งที่ปวดได้ชัดเจน

- ผู้ป่วยจะก้มหลังไม่ค่อยได้ หลังจะแอ่นอยู่ตลอดเวลา (ลองสังเหตุดู หากเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นจะตรงข้ามกันนะ)

- ผู้ป่วยจะก้มหลังได้ไม่สุด จะรู้สึกตึงๆขัดๆที่หลังในขณะที่ก้ม

- รู้สึกขาชาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง (แต่พบน้อยที่ชาทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน) เนื่องจากกระดูกงอกไปกดทับเส้นประสาท

- หากกดลงไปที่กระดูกสันหลังของข้อที่เสื่อม ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดขัดๆภายในข้อนั้น แต่หากกดที่ข้ออื่นจะไม่รู้สึกอะไร

- หากกระดูกสันหลังทรุดมาก อาจจะทำให้กล้ามเนื้อหลังหดเกร็งค้าง จนนำไปสู่อาการปวดหลังจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบ

โดยสรุปแล้ว อาการของโรคกระดูกสันหลังเสื่อมจะค่อนข้างซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เพราะเป็นอาการรวมๆกันของหลายโรคครับ 

รายละเอียดของโรคกระดูกสันหลังเสื่อมฉบับจัดหนัก (กระดูกสันหลังเสื่อม ภัยเงียบที่ไร้อาการปวด)


4) โรคปวดสะโพกร้าวลงขา (sacroiliac joint dysfunction symptoms)


โรคนี้เอาจริงๆแล้วคนเป็นเยอะไม่แพ้โรคกระดูกสันหลังเสื่อมเลยนะ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักกัน เพราะอาการมันคล้ายกับกระดูกสันหลังเสื่อมมากๆ ต่างกันแค่ตำแหน่งที่ปวดเฉยๆ ซึ่งก็คือที่ตำแหน่งรอยต่อระหว่างกระดูกเชิงกราน (pelvic) กับกระดูกสันหลังส่วนปลาย (pelvic) นั่นเองครับ (หากงงก็รูปภาพประกอบได้) 

 

ภาพแสดงตำแหน่งข้อต่อ sacroiliac joint จุดที่ทำให้เราปวด


อาการ ของโรคปวดสะโพกร้าวลงขา


- ปวดบริเวณขอบกระดูกเชิงกราน ใกล้กับแนวกระดูกสันหลัง (ตรงจุดนี้แหละที่ทำให้เข้าใจผิดบ่อยๆว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังเสื่อม)

- ปวดเมื่อบริเวณหลังเมื่อนั่งนาน

- จะมีอาการปวดเสียวที่หลัง เมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งไปยืน โดยเฉพาะหลังจากขับรถมานาน

- จะสังเกตุเห็นเอวทั้ง 2 ข้างอยู่สูงตํ่าไม่เท่ากัน

- ปวดบริเวณหลังส่วนล่างร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง

- ปวดมากเมื่อนั่งนาน 

- ผู้ป่วยไม่สามารถนั่งนานๆได้ หากนั่งนานก็จะนั่งเอี้ยวตัวลงนํ้าหนักที่ก้นข้างใดข้างหนึ่งแทน

- รู้สึกขาอ่อนแรง บางครั้งเดินๆอยู่ก็รู้สึกเข่าพับไปดื้อๆ

- รู้สึกปวดแบบแหลมๆที่กระเบ็นเหน็บ เมื่อนั่ง

- ไม่มีอาการชาใดๆ

- ปวดตามแนวขอบกางเกงใน

- X-ray จะไม่เห็นความผิดปกติมากนัก ไม่เหมือนโรคกระดูกสันหลังเสื่อม

- หากกดลงไปที่กระดูกสันหลังตรงๆ ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกปวดอะไร แต่หากกดที่รอยต่อระหว่างกระดูกเชิงกรานจะปวดร้าวลงขา บางรายอาจจะปวดร้าวลงหน้าแข้งเลยก็มีครับ

รายละเอียดแบบจัดเต็มของโรคปวดสะโพกร้าวลงขา (ปวดสะโพกร้าวลงขา ทั้งที่ X-ray แล้วกระดูกสันหลังก็ปกตินี่)


5) โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (piriformis syndrome)


โรคนี้พบได้เยอะมากกกกก แล้วเป็นโรคที่โดนเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เพราะว่ามันมีอาการชาร้าวลงขาเหมือนกันเลย ต่างกันแค่ตำแหน่งที่เส้นประสาทถูกหนีบเท่านั้นเองครับ โรคนี้เกิดจากกล้ามเนื้อ piriformis ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดลึกอยู่ภายในก้นของเรา เกิดตึงตัวมากๆจากการนั่งนานไปหนีบเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงขาชื่อว่า sciatic nerve ผลก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการขาชา ขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อขาฝ่อลีบ แต่เมื่อไอจามแล้วไม่มีอาการปวดเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

 

ภาพแสดงตำแหน่งกล้ามเนื้อ piriformis และเส้นประสาท sciatic ที่ถูกทับ


อาการ ของโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท


- รู้สึกปวดลึกๆที่แก้มก้น หรือก้นย้อย คลำหาจุดกดเจ็บไม่ค่อยเจอ เพราะกล้ามเนื้ออยู่ลึกมาก

- รู้สึกขาชา แต่จะรู้สึกชาตั้งแต่ก้นลงมา

- จะรู้สึกปวดก้นมากขึ้น หรือขาชามากขึ้นหากนั่งนาน

- ไม่มีอาการปวดหลังใด

- มีจุดกดเจ็บที่ก้น เมื่อนักกายภาพใช้นิ้วกดลงไปทีแก้มก้นจะรู้สึกปวดมากที่ก้นและบางรายปวดร้าวลงถึงปลายเท้า

- ไอ จาม หรือเบ่งถ่ายไม่ทำให้เกิดอาการปวดเพิ่มมากขึ้น

- รู้สึกขาอ่อนแรง เมื่อเดินลงนํ้าหนักจะรู้สึกว่า ขาเหยีบพื้นได้ไม่เต็มที่

- รู้สึกขาหนักๆ ยกขาข้างที่เป็นไม่ค่อยขึ้น

รายละเอียดของโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทตามลิงค์นี้เลยครับ (ชาร้าวลงขา อย่าพึ่งคิดว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น ยังมีอีกโรคที่น้อยคนจะรู้จัก)


6) โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน (spondylolisthesis)


โรคนี้อาจจะสังเกตุอาการยากนิดนึงครับสำหรับคนทั่วไป ส่วนใหญ่จะใช้การตรวจ X-ray จึงเห็นชัดครับ ซึ่งโรคนี้เกิดจากตัวเชื่อมระหว่างปล้องกระดูกสันหลังกับส่วนหางของกระดูกสันหลัง (pars interarticularis) มันหัก ทำให้ตัวปล้องกระดูกสันหลังเคลื่อนไปด้านหน้ามากกว่าปกติ อาจเกิดจากอุบัติเหตุที่กระดูกสันหลังโดยตรง จากที่เคยตั้งครรถ์ หรืออ้วนลงพุงมากก่อนก็ได้ครับ

 

ลักษณะการยื่นของปล้องกระดูกสันหลัง


อาการ ของโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน


- ระยะแรกไม่มีอาการแสดงใดๆเลยครับ 

- หากเคลื่อนมากขึ้น จะรู้สึกปวดหลัง ปวดหลังร้าวลงขา 

- หากเคลื่อนไปทับเส้นประสาท จะมีอาการขาชา ขาอ่อนแรง

- ผู้ป่วยจะยืนเดินนานไม่ค่อยได้ 

ซึ่งโรคนี้จะไม่มีอาการเด่นชัดมากเหมือนโรคอื่นๆครับ

รายละเอียดของโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนตามลิงค์นี้เลย (กระดูกสันหลังเคลื่อน ภัยเงียบที่มากกว่าแค่ปวดหลัง)


7) ปวดหลังจากอวัยวะภายใน


นอกจากอาการปวดหลังจากตัวกล้ามเนื้อและกระดูกแล้ว ก็ยังเกิดจากอวัยวะภายในของเรามีปัญหาด้วยก็ได้นะ เช่น เป็นโรคกระเพาะ, เป็นลำไส้อักเสบ หรือเป็นโรคไต แต่โรคเหล่านี้มักจะมีอาการปวดท้องควบคู่กันไปด้วยนะครับ


ทีนี้ก็จบลงไปแล้วสำหรับโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลังที่เราพบได้บ่อยมากๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นคู่มือการสังเกตุโรคของตัวเองได้ไม่มากก็น้อยนะครับ^^

 

เครดิตภาพ

- http://www.physica.com.au/piriformis-syndrome/

- http://advancedpainmedical.com/our-services/spondylolisthesis/

- http://www.sheffieldbackpain.com/

- http://www.behandelcentrumneurologie.nl/meer_over_hernia_(HNP).html

- http://www.jmaxfitness.com/blog/muscle-specific-hypertrophy-guide-targeted-muscle-building/

- http://www.spines.com/conditions/spondylosis

- https://en.wikipedia.org/wiki/Sacroiliac_joint_dysfunction

- www.doobody.com

15 พฤศจิกายน 2559

ผู้ชม 113510 ครั้ง

    Engine by shopup.com